|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555
การประกันภัยต่อ |
การประกันภัยต่อ |
หมายถึงการกระจายการเสี่ยงภัยของผู้รับประกันภัยกับผู้รับประกันภัยด้วยกันเอง เนื่องจากความสามารถในการรับเสียงภัยไว้เองของบริษัทมีจำกัด จึงกระจายการเสี่ยงภัยส่วนที่เหลือให้กับผู้รับประกันภัยอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่า ผู้รับประกันภัยต่อ (Reinsurer) ความจำเป็นของการทำประกันภัยต่อ 1. ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยมีมูลค่าสูงกว่าเงินกองทุนของบริษัท 2. ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยมีความเสี่ยงภัยสูง 3. สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยมีความเสี่ยงภัยสูง 4. ข้อจำกัดของกฎหมายที่กำหนดให้บริษัทประกันภัยรับเสี่ยงภัยไว้เองได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินกองทุน ประโยชน์ของการประกันภัยต่อ 1. เพิ่มศักยภาพในการรับประกันภัย 2. เพื่อให้เกิดเสถียรภาพกับผลการรับประกันภัย 3. เพื่อกระจายความเสี่ยงภัยออกไปให้กว้างขวางขึ้น 4. เพื่อความมั่นคงทางด้านการเงิน 5. เพื่อรับบริการทางวิชาการจากบริษัทรับประกันภัยต่อ ประเภทของการประกันภัยต่อ 1. การประกันภัยต่อแบบเฉพาะราย (Facultative Reinsurance) คือการประกันภัยซึ่งบริษัทเอาประกันภัยต่อต้องเสนอรายละเอียดของภัยแต่ละราย ไปให้กับบริษัทผู้รับประกันภัยต่อพิจารณา ซึ่งอาจจะกระทำโดยทางจดหมาย โทรศัพท์ โทรสาร หรืออื่น ๆ บริษัทรับประกันภัยต่อสามารถที่จะบอกรับหรือปฏิเสธการเอาประกันภัยต่อชนิดนี้ได้ 2. การประกันภัยต่อแบบสัญญา (Treaty Reinsurance) คือการประกันภัยที่เป็นข้อผูกมัดระหว่างบริษัทเอาประกันภัยต่อจะต้องประกันภัยต่อให้แก่ผู้รับประกันภัยต่อ และผู้รับประกันภัยต่อสัญญาว่าจะรับประกันภัยต่อในสัดส่วนที่ได้ตกลงกันไว้ การประกันภัยต่อแบบนี้แบ่งออกเป็น 2.1 การประกันภัยต่อแบบเป็นสัดส่วน การประกันภัยต่อแบบนี้ กำหนดจากจำนวนเงินเอาประกันภัยเป็นหลัก เบี้ยประกันภัยและค่าสินไหมทดแทนจะแบ่งกันระหว่างผู้เอาประกันภัยต่อกับผู้รับประกันภัยต่อตามอัตราส่วนของจำนวนเงินเอาประกันภัยของแต่ละฝ่ายที่รับเสี่ยงภัย 2.2 การประกันภัยต่อแบบไม่เป็นสัดส่วน การประกันภัยแบบนี้ จะไม่กำหนดจากจำนวนเงินเอาประกันภัย แต่จะกำหนดจากจำนวนค่าสินไหมทดแทนเป็นหลัก โดยผู้รับประกันภัยต่อจะชดใช้ก็ต่อเมื่อค่าสินไหมทดแทนสูงกว่าวงเงินที่ได้ตกลงกันไว้ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงกันไว้ วิธีการทำประกันภัยต่อ 1. ทำประกันภัยต่อกับบริษัทประกันภัยต่อโดยตรง 2. ทำประกันภัยต่อโดยผ่านนายหน้าบริษัทประกันภัยต่อ |
วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554
การประกันภัยสำหรับเจ้าบ้าน
การประกันภัยสำหรับเจ้าบ้าน
การ ประกันภัยเจ้าบ้านเป็นการประกันภัยที่มีจุดประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองต่อ ผู้เป็นเจ้าของอาคาร ประเภทบ้านอยู่อาศัย สำนักงานในบ้าน หรือห้องชุดอยู่อาศัยในแฟลต แมนชั่น หรือคอนโดมิเนียม ให้ได้รับ ความคุ้มครองหลายอย่างไว้กรมธรรม์เดียวกัน ซึ่งประกอบด้วย ความคุ้มครองต่อความเสียหายจากอัคคีภัย ความเสียหายจากโจรกรรมหรือการลักทรัพย์ ความเสียหายต่อความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความเสียหาย ต่อทรัพย์สินในอาคาร การสูญเสียค่าเช่าหรือค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว การจ่ายเงินชดเชย สำหรับการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์ เป็นต้น การประกันภัยประเภทนี้ให้ประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้รับความคุ้มครองที่หลากหลายแล้ว ยังสะดวกในการต่ออายุการประกันภัยด้วย เนื่องจากเป็นการผนวกเอากรมธรรม์หลายรูปแบบ ไว้ในกรมธรรม์เดียว และที่สำคัญเป็นการช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้อีกด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับการทำประกันภัยหลายประเภทหลายกรมธรรม์
ความคุ้มครองของการประกันภัย สำหรับเจ้าบ้าน
หมวด 1 : ความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร
หมวด 2 : ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคาร
หมวด 3 : ค่าใช้จ่ายสำหรับการเปลี่ยนที่พักอาศัยชั่วคราว และการสูญเสียค่าเช่า
หมวด 4 : ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
หมวด 5 : เงินชดเชยการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย
โดยแต่ละหมวด มีความคุ้มครอง ดังนี้
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัย สำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร หรือต่อทรัพย์สินในอาคารที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากอัคคีภัย ฟ้าผ่า การระเบิด อากาศยานหรือสิ่งที่หล่นจากอากาศยาน น้ำท่วม การไหลล้นหรือการระเบิดของแท้งค์น้ำ อุปกรณ์ส่วนควบของแท้งค์น้ำหรือท่อน้ำ การลักทรัพย์โดยใช้กำลังรุนแรงเพื่อเข้าไปหรือออกจากอาคาร การชิงทรัพย์ การปล้นทรัพย์ หรือความพยายาม กระทำการดังกล่าว อาคารถูกชนโดยพาหนะทางบก ม้าหรือปศุสัตว์ ที่ไม่ได้เป็นของหรืออยู่ในความควบคุมของผู้เอาประกันภัยหรือของสมาชิกใน ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัย แผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน พายุไซโคลน พายุใต้ฝุ่น หรือลมพายุ
ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของอาคารและ มีรายได้จากการให้เช่าอาคารนั้น เช่น เจ้าของบ้านเช่า/ เจ้าของหอพัก/เจ้าของอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น หากเกิดความเสียหายต่ออาคารจากภัยที่คุ้มครองตามกรมธรรม์จนทำให้เจ้าของ อาคารต้องขาดรายได้ซึ่งเคยได้รับ บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามจำนวนเงินเอาประกันภัย ที่ระบุในตาราง
บริษัท จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ในฐานะเจ้าของอาคารที่เอาประกันภัย หรือในฐานะผู้เช่า ซึ่งพักอาศัยในอาคารที่เอาประกันภัย โดยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก แบ่งเป็น 2 กรณี คือ ความรับผิดต่อร่างกายของบุคคลภายนอก เช่น การเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ความบาดเจ็บต่อร่างกาย (ตัวอย่าง เช่น บุคคลภายนอกมาบ้านของผู้เอาประกันภัยแล้วลื่นล้มในห้องน้ำหัวฟาดพื้น) และความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิด ขึ้นในอาคารหรือเกี่ยวกับอาคาร (ตัวอย่าง เช่น รถของบุคคลภายนอกจอดไว้ในบ้านของผู้เอาประกันภัยแล้วของจากที่สูงตกใส่ หลังคารถ แล้วทำให้รถได้รับความเสียหาย)
1. ความเสียหายต่อกระจก หมายถึง การแตกของกระจกที่เป็นเสมือนผนังอาคารและกระจกประตูหน้าต่างที่เอาประกันภัย ไว้ โดยบริษัทจะชดใช้โดยเลือกกระจกอื่นมาทดแทนหรือซ่อมแซมกระจกแตกไป และ
2. ความคุ้มครองเงินชดเชยการเสียชีวิตของคู่สมรสและสมาชิกในครอบครัวของผู้เอา ประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยต้องการได้รับเงินชดเชย กรณีคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัยตามที่ระบุชื่อไว้ ได้รับบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากภัยที่ระบุภายใต้ความคุ้มครองต่ออาคารและ ทรัพย์สินในอาคาร และทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียชีวิตภายใน 180 วัน นับจากวันเกิดอุบัติเหตุ บริษัทก็จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัย
1. แจ้งเป็นหนังสือให้บริษัททราบโดยพลัน
2. กรณีโจรกรรม หรือพยายามกระทำการดังกล่าว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
3. การ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายใต้ข้อตกลงคุ้มครอง ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งมอบหลักฐานตามที่บริษัทร้องขอ พร้อมทั้งรายละเอียดของทรัพย์สินที่สูญเสียหรือเสียหายภายใน 30 วัน นับแต่วันเกิดความสูญเสียหรือเสียหาย
4. การ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายใต้ข้อตกลงคุ้มครอง ผู้เอาประกันภัยต้องส่งหมายศาล หมายเรียกใด ๆ หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ ให้แก่บริษัท และต้องให้ข้อมูลและความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่บริษัท
5. ผู้ เอาประกันภัยต้องไม่ตกลงหรือยอมรับ หรือประนีประนอม หรือปฏิเสธการเรียกร้องใด ๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการซ่อม แซมทรัพย์สินที่เสียหาย เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายต้องรับผิด หรือบริษัทไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายในเวลาอัน สมควร
หมวด 1 ความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อความสูญเสียหรือเสียหายต่ออาคารตามความเสียหายที่แท้จริง โดยชดใช้เป็น เงินสด หรือทำการซ่อมแซม หรือ ทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม แต่ทั้งนี้ จะไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 2 ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคาร
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคารที่เอาประกันภัย ตามจำนวนมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินในขณะเกิดความสูญเสียหรือเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ความสูญเสียหรือเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 3 ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราวและการสูญเสียค่าเช่า
สำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว ตามจำนวนเงินค่าเช่าที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับ การสูญเสียค่าเช่า บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเช่าที่ผู้เอาประกันภัยเคยได้รับจาก การให้เช่าอาคารที่เอาประกันภัยนั้น แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 4 ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอก ดังนี้
การเสียชีวิต จะชดใช้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การบาดเจ็บ จะชดใช้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่ได้จ่ายไปจริง รวมทั้งค่าชดเชยตามสมควร แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินขณะที่เกิดความเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
หมวด 5 เงินชดเชยการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย
หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองในหมวดนี้ ดังได้กล่าวมาแล้ว บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
1. กรณี ที่อาคารถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีผู้อยู่อาศัยเกิน 15 วันติดต่อกัน แล้วเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคารและทรัพย์สินในอาคารที่ทำประกัน ภัยนั้น
2. กรณีที่มีการเคลื่อนย้าย ทรัพย์สินออกนอกอาคารเป็นการชั่วคราว เพื่อขายหรือนำออกแสดงนิทรรศการและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินนั้น ในขณะที่อยู่นอกอาคารที่เอาประกันภัย
3. กรณี เป็นความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินบางประเภท เช่น เงินสด เพชร พลอย โฉนดพันธบัตร ตั๋วเงิน ต้นฉบับเอกสาร เป็นต้น ซึ่งจัดเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในข้อยกเว้น ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์
4. กรณีที่เป็นความบาดเจ็บทางร่างกายของ สมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลที่อยู่ประจำในบ้านของผู้เอาประกันภัย หรือผู้ปฏิบัติงานให้ผู้เอาประกันภัย
5. กรณี ที่เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินซึ่งเป็นของ หรืออยู่ในความควบคุมดูแลของผู้เอาประกันภัย หรือสมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย
6. ความ บาดเจ็บทางร่างกาย หรือเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดขึ้นจากอาชีพ หรือธุรกิจของผู้เอาประกันภัย หรือจากการใช้ลิฟท์ บันไดเลื่อน หรือยานพาหนะใด ๆ
ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจการประกันภัยเจ้าบ้าน มีดังนี้
1. ต้อง สำรวจดูถึงสภาพความเสี่ยงภัยและความต้องการความคุ้มครองของเจ้าของอาคารที่ อยู่อาศัยว่า ความจำเป็นต้องทำประกันภัยหลายอย่างในขณะเดียวกันหรือไม่ เช่น ต้องการความคุ้มครองจากอัคคีภัย จากโจรกรรม ทรัพย์สิน ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และการสูญเสียค่าเช่า เป็นต้น ถ้าหากผู้เอาประกันภัยได้ทำการประกันภัยแต่ละแบบ หรือมีกรมธรรม์ประกันภัยหลายฉบับอยู่แล้ว การทำประกันภัยเจ้าบ้านฉบับเดียวโดยได้รับความคุ้มครองทั้งหมดจะเกิดความ สะดวกและประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากกว่า
2. ผู้ ที่เป็นเจ้าของอาคารซึ่งมีรายได้หลักจากการให้เช่าอาคาร เช่น เจ้าของห้องชุดให้เช่า เจ้าของอพาร์ทเมนท์ เจ้าของหอพัก เป็นต้น จะได้ประโยชน์ เพราะโดยปกติมักจะมีการประกันอัคคีภัย การประกันภัยการสูญเสียค่าเช่าอยู่แล้ว และขอแนะนำให้ซื้อการประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเพิ่มเติม ดังนั้น การซื้อการประกันภัยสำหรับเจ้าของบ้านกรมธรรม์เดียวจะให้ความคุ้มครองครอบ คลุมถึงความคุ้มครองทุกส่วนที่ต้องการ
3. ชาว ต่างชาติที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทยมักจะให้ความสำคัญกับเรื่องการประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก นอกจากนี้ยังมีความต้องการความคุ้มครองถึงทรัพย์สินของคนใช้หรือผู้ติดตาม ด้วย ซึ่งกรมธรรม์สำหรับเจ้าบ้านบางแบบอาจจะมีการขยายความคุ้มครองถึงเสื้อผ้า และทรัพย์สินส่วนตัวของคนใช้หรือผู้ติดตามของผู้เอาประกันภัยและที่อยู่ใน บ้านของผู้เอาประกันภัย
4. สำหรับบ้านอยู่ อาศัยโดยทั่วไปจะมีความจำเป็นหรือไม่นั้น ควรพิจารณาถึงภัยที่คุ้มครองตามกรมธรรม์ว่า มีความจำเป็นหรือมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายมากน้อยขนาดไหน เพราะการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าของบ้านจะต้องซื้อภัยทั้งหมดซึ่ง อาจจะทำให้ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยแพงกว่าการเลือกซื้อ กรมธรรม์เฉพาะแบบที่ต้องการ
ผู้เช่า ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้าน ผู้เช่าคอนโดมิเนียม/ห้องชุด ผู้เช่าอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น สามารถทำประกันภัย สำหรับเจ้าบ้านได้แต่จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะส่วนของความสูญเสีย หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของตนและความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น สำหรับตัวอาคารนั้น ผู้เช่าไม่สามารถนำไปทำประกันภัยได้ เนื่องจากไม่มีกรรมสิทธิ์หรือส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว
ความคุ้มครองของการประกันภัย สำหรับเจ้าบ้าน
กรมธรรม์ ประกันภัยสำหรับเจ้าบ้านมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละบริษัทอาจเลือกขายความคุ้มครองแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปความคุ้มครองจะมี 5 หมวด ดังนี้
หมวด 1 : ความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร
หมวด 2 : ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคาร
หมวด 3 : ค่าใช้จ่ายสำหรับการเปลี่ยนที่พักอาศัยชั่วคราว และการสูญเสียค่าเช่า
หมวด 4 : ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
หมวด 5 : เงินชดเชยการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย
โดยแต่ละหมวด มีความคุ้มครอง ดังนี้
ความคุ้มครองต่ออาคารและทรัพย์สินในอาคาร
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัย สำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร หรือต่อทรัพย์สินในอาคารที่เอาประกันภัย อันเนื่องมาจากอัคคีภัย ฟ้าผ่า การระเบิด อากาศยานหรือสิ่งที่หล่นจากอากาศยาน น้ำท่วม การไหลล้นหรือการระเบิดของแท้งค์น้ำ อุปกรณ์ส่วนควบของแท้งค์น้ำหรือท่อน้ำ การลักทรัพย์โดยใช้กำลังรุนแรงเพื่อเข้าไปหรือออกจากอาคาร การชิงทรัพย์ การปล้นทรัพย์ หรือความพยายาม กระทำการดังกล่าว อาคารถูกชนโดยพาหนะทางบก ม้าหรือปศุสัตว์ ที่ไม่ได้เป็นของหรืออยู่ในความควบคุมของผู้เอาประกันภัยหรือของสมาชิกใน ครอบครัวที่อยู่ด้วยกันกับผู้เอาประกันภัย แผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน พายุไซโคลน พายุใต้ฝุ่น หรือลมพายุ
ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราวและการสูญเสียค่าเช่า
กล่าว คือ ในกรณีที่อาคารที่พักอาศัยที่ทำประกันนั้นได้รับความเสียหายจากภัยดังที่ได้ กล่าวมาแล้วข้างต้น จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จะต้องทำการซ่อมแซมหรือสร้างขึ้นใหม่ และในระหว่างรอการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่นั้น ผู้เอาประกันภัยก็จะต้องหาที่พักอาศัยชั่วคราว เช่น บ้านเช่า/โรงแรม/อพาร์ทเมนท์ เป็นต้น บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยเพื่อเป็นค่าเช่าที่พัก อาศัยชั่วคราวดังกล่าวในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเป็นเจ้าของอาคารและ มีรายได้จากการให้เช่าอาคารนั้น เช่น เจ้าของบ้านเช่า/ เจ้าของหอพัก/เจ้าของอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น หากเกิดความเสียหายต่ออาคารจากภัยที่คุ้มครองตามกรมธรรม์จนทำให้เจ้าของ อาคารต้องขาดรายได้ซึ่งเคยได้รับ บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามจำนวนเงินเอาประกันภัย ที่ระบุในตาราง
คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
บริษัท จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก ในฐานะเจ้าของอาคารที่เอาประกันภัย หรือในฐานะผู้เช่า ซึ่งพักอาศัยในอาคารที่เอาประกันภัย โดยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก แบ่งเป็น 2 กรณี คือ ความรับผิดต่อร่างกายของบุคคลภายนอก เช่น การเสียชีวิต ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ความบาดเจ็บต่อร่างกาย (ตัวอย่าง เช่น บุคคลภายนอกมาบ้านของผู้เอาประกันภัยแล้วลื่นล้มในห้องน้ำหัวฟาดพื้น) และความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิด ขึ้นในอาคารหรือเกี่ยวกับอาคาร (ตัวอย่าง เช่น รถของบุคคลภายนอกจอดไว้ในบ้านของผู้เอาประกันภัยแล้วของจากที่สูงตกใส่ หลังคารถ แล้วทำให้รถได้รับความเสียหาย)
ความคุ้มครองสำหรับเงินชดเชยการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย
หาก ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุขณะที่อยู่ในอาคารที่ทำประกันภัยและเป็นเหตุ ให้เสียชีวิตทันที หรือได้รับบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากภัยภายใต้ความคุ้มครองต่ออาคาร และทรัพย์สินในอาคารดังได้กล่าวมาแล้วนั้น และมีผลทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียชีวิตภายใน 180 วัน นับจากวันเกิดอุบัติเหตุ บริษัทจะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ (ตัวอย่าง เช่น อาคารที่เอาประกันภัยเกิดเพลิงไหม้แล้วผู้เอาประกันภัยถูกไฟคลอกตาย/ เกิดระเบิดในอาคารที่เอาประกันภัย ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับบาดเจ็บต้องรับการรักษาพยาบาล และต่อมาเสียชีวิตภายใน 180 วัน นับแต่วันที่เกิดระเบิดนั้น)ความคุ้มครองที่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้
ผู้เอาประกันภัยสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้อีก ดังนี้1. ความเสียหายต่อกระจก หมายถึง การแตกของกระจกที่เป็นเสมือนผนังอาคารและกระจกประตูหน้าต่างที่เอาประกันภัย ไว้ โดยบริษัทจะชดใช้โดยเลือกกระจกอื่นมาทดแทนหรือซ่อมแซมกระจกแตกไป และ
2. ความคุ้มครองเงินชดเชยการเสียชีวิตของคู่สมรสและสมาชิกในครอบครัวของผู้เอา ประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยต้องการได้รับเงินชดเชย กรณีคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัยตามที่ระบุชื่อไว้ ได้รับบาดเจ็บอันมีสาเหตุมาจากภัยที่ระบุภายใต้ความคุ้มครองต่ออาคารและ ทรัพย์สินในอาคาร และทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียชีวิตภายใน 180 วัน นับจากวันเกิดอุบัติเหตุ บริษัทก็จะจ่ายค่าชดเชยให้แก่ผู้เอาประกันภัย
ข้อปฏิบัติในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
การ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เมื่อเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายที่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขใน กรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าบ้าน ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ต้องปฏิบัติดังนี้1. แจ้งเป็นหนังสือให้บริษัททราบโดยพลัน
2. กรณีโจรกรรม หรือพยายามกระทำการดังกล่าว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
3. การ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายใต้ข้อตกลงคุ้มครอง ผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งและส่งมอบหลักฐานตามที่บริษัทร้องขอ พร้อมทั้งรายละเอียดของทรัพย์สินที่สูญเสียหรือเสียหายภายใน 30 วัน นับแต่วันเกิดความสูญเสียหรือเสียหาย
4. การ เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายใต้ข้อตกลงคุ้มครอง ผู้เอาประกันภัยต้องส่งหมายศาล หมายเรียกใด ๆ หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่น ๆ ให้แก่บริษัท และต้องให้ข้อมูลและความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่บริษัท
5. ผู้ เอาประกันภัยต้องไม่ตกลงหรือยอมรับ หรือประนีประนอม หรือปฏิเสธการเรียกร้องใด ๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัทเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการซ่อม แซมทรัพย์สินที่เสียหาย เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายต้องรับผิด หรือบริษัทไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนภายในเวลาอัน สมควร
หลักเกณฑ์ที่บริษัทใช้ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
หลักเกณฑ์ที่บริษัทประกันภัยใช้ในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในแต่ละหมวดความคุ้มครอง มีดังต่อไปนี้หมวด 1 ความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคาร
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อความสูญเสียหรือเสียหายต่ออาคารตามความเสียหายที่แท้จริง โดยชดใช้เป็น เงินสด หรือทำการซ่อมแซม หรือ ทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม แต่ทั้งนี้ จะไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 2 ความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคาร
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินในอาคารที่เอาประกันภัย ตามจำนวนมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินในขณะเกิดความสูญเสียหรือเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ความสูญเสียหรือเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 3 ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราวและการสูญเสียค่าเช่า
สำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว ตามจำนวนเงินค่าเช่าที่ได้จ่ายไปจริง แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับ การสูญเสียค่าเช่า บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าเช่าที่ผู้เอาประกันภัยเคยได้รับจาก การให้เช่าอาคารที่เอาประกันภัยนั้น แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
หมวด 4 ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอก ดังนี้
การเสียชีวิต จะชดใช้ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การบาดเจ็บ จะชดใช้เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลตามที่ได้จ่ายไปจริง รวมทั้งค่าชดเชยตามสมควร แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
สำหรับความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตามมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินขณะที่เกิดความเสียหาย แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
หมวด 5 เงินชดเชยการเสียชีวิตของผู้เอาประกันภัย
หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายใต้เงื่อนไขความคุ้มครองในหมวดนี้ ดังได้กล่าวมาแล้ว บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ แต่ทั้งนี้ ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
กรณีที่บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ในการประกันภัยสำหรับเจ้าบ้าน บริษัทประกันภัยสามารถปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ ในกรณี ดังต่อไปนี้1. กรณี ที่อาคารถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีผู้อยู่อาศัยเกิน 15 วันติดต่อกัน แล้วเกิดความสูญเสียหรือความเสียหายต่ออาคารและทรัพย์สินในอาคารที่ทำประกัน ภัยนั้น
2. กรณีที่มีการเคลื่อนย้าย ทรัพย์สินออกนอกอาคารเป็นการชั่วคราว เพื่อขายหรือนำออกแสดงนิทรรศการและเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินนั้น ในขณะที่อยู่นอกอาคารที่เอาประกันภัย
3. กรณี เป็นความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพย์สินบางประเภท เช่น เงินสด เพชร พลอย โฉนดพันธบัตร ตั๋วเงิน ต้นฉบับเอกสาร เป็นต้น ซึ่งจัดเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในข้อยกเว้น ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์
4. กรณีที่เป็นความบาดเจ็บทางร่างกายของ สมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย หรือบุคคลที่อยู่ประจำในบ้านของผู้เอาประกันภัย หรือผู้ปฏิบัติงานให้ผู้เอาประกันภัย
5. กรณี ที่เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินซึ่งเป็นของ หรืออยู่ในความควบคุมดูแลของผู้เอาประกันภัย หรือสมาชิกในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย
6. ความ บาดเจ็บทางร่างกาย หรือเสียชีวิตและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เกิดขึ้นจากอาชีพ หรือธุรกิจของผู้เอาประกันภัย หรือจากการใช้ลิฟท์ บันไดเลื่อน หรือยานพาหนะใด ๆ
ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจทำประกันภัยเจ้าบ้าน
ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจการประกันภัยเจ้าบ้าน มีดังนี้
1. ต้อง สำรวจดูถึงสภาพความเสี่ยงภัยและความต้องการความคุ้มครองของเจ้าของอาคารที่ อยู่อาศัยว่า ความจำเป็นต้องทำประกันภัยหลายอย่างในขณะเดียวกันหรือไม่ เช่น ต้องการความคุ้มครองจากอัคคีภัย จากโจรกรรม ทรัพย์สิน ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และการสูญเสียค่าเช่า เป็นต้น ถ้าหากผู้เอาประกันภัยได้ทำการประกันภัยแต่ละแบบ หรือมีกรมธรรม์ประกันภัยหลายฉบับอยู่แล้ว การทำประกันภัยเจ้าบ้านฉบับเดียวโดยได้รับความคุ้มครองทั้งหมดจะเกิดความ สะดวกและประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยได้มากกว่า
2. ผู้ ที่เป็นเจ้าของอาคารซึ่งมีรายได้หลักจากการให้เช่าอาคาร เช่น เจ้าของห้องชุดให้เช่า เจ้าของอพาร์ทเมนท์ เจ้าของหอพัก เป็นต้น จะได้ประโยชน์ เพราะโดยปกติมักจะมีการประกันอัคคีภัย การประกันภัยการสูญเสียค่าเช่าอยู่แล้ว และขอแนะนำให้ซื้อการประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเพิ่มเติม ดังนั้น การซื้อการประกันภัยสำหรับเจ้าของบ้านกรมธรรม์เดียวจะให้ความคุ้มครองครอบ คลุมถึงความคุ้มครองทุกส่วนที่ต้องการ
3. ชาว ต่างชาติที่มาทำงานอยู่ในประเทศไทยมักจะให้ความสำคัญกับเรื่องการประกันภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก นอกจากนี้ยังมีความต้องการความคุ้มครองถึงทรัพย์สินของคนใช้หรือผู้ติดตาม ด้วย ซึ่งกรมธรรม์สำหรับเจ้าบ้านบางแบบอาจจะมีการขยายความคุ้มครองถึงเสื้อผ้า และทรัพย์สินส่วนตัวของคนใช้หรือผู้ติดตามของผู้เอาประกันภัยและที่อยู่ใน บ้านของผู้เอาประกันภัย
4. สำหรับบ้านอยู่ อาศัยโดยทั่วไปจะมีความจำเป็นหรือไม่นั้น ควรพิจารณาถึงภัยที่คุ้มครองตามกรมธรรม์ว่า มีความจำเป็นหรือมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายมากน้อยขนาดไหน เพราะการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับเจ้าของบ้านจะต้องซื้อภัยทั้งหมดซึ่ง อาจจะทำให้ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยแพงกว่าการเลือกซื้อ กรมธรรม์เฉพาะแบบที่ต้องการ
ผู้เช่า ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้าน ผู้เช่าคอนโดมิเนียม/ห้องชุด ผู้เช่าอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น สามารถทำประกันภัย สำหรับเจ้าบ้านได้แต่จะได้รับความคุ้มครองเฉพาะส่วนของความสูญเสีย หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินของตนและความรับผิดต่อบุคคลภายนอกเท่านั้น สำหรับตัวอาคารนั้น ผู้เช่าไม่สามารถนำไปทำประกันภัยได้ เนื่องจากไม่มีกรรมสิทธิ์หรือส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)